Military Style : แฟชั่นสไตล์อาร์มี

Military Style : แฟชั่นที่ไ่ม่มีวันตาย
มนต์ขลังของชุดอาร์มี...แฟชั่นที่ไม่มีวันเอาท์!!            กระแสแฟชั่น Military มาแรงในหน้าร้อนปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ต่างประเทศ ที่ดีไซเนอร์หลายแบรนด์นำแรงบันดาลใจจากชุดทหารมาออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้ากันอย่างคึกคัก ส่วนบ้านเราก็ฮอตฮิตไม่แพ้กัน         

            ดังนั้นหากจะหยิบชุดทหารมาใส่ให้อินท์ อาจจะต้องศึกษาความเป็นมาและมนต์ขลังของชุดทหารกันซักเล็กน้อยนะคะ "เครื่องแต่งกายทหารที่เป็นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องของการแต่งกายทหารกำลังทางบก และมิได้มีหลักฐานอ้างอิงชัดเจนเช่นสมัยปัจจุบัน อย่างเช่น ชุดพลทหารแต่งเต็มยศ พ.ศ. 2415 จะสวมหมวกเฮลเม็ตสีขาว เสื้อทูลนิกผ้าเซิจสีดำ กางเกงทรงกว้างสักหลาดสีดำ รองเท้าหุ้มข้อสีน้ำตาล และสวมสนับแข้งสีน้ำตาลทับรองเท้า       

       พอเข้ายุคกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการใช้เครื่องแบบเป็นทางราชการ มีพระราชกำหนดพระราชบัญญัติ และกฏกระทรวง ตราขึ้นให้ทหารและตำรวจ แต่งกายตามยุคสมัยของวิวัฒนาการบ้านเมืองและสังคม ให้เท่าเทียมกับอารยประเทศ อย่างเครื่องแบบฝึกทหารสมัยรัชกาลที่ 6-7 จะสวมหมวกทรงหม้อตาลสีกากีแกมเขียว เสื้อแบบหลวงและกางเกงขี่ม้าสีกากีแกมเขียว และมีผ้าสักหลาดพันทับรองเท้าหุ้มข้ออีกที"              ส่วนปัจจุบันชุดทหารบก มีทั้งสีเขียวขี้ม้าและชุดลายพราง ซึ่งชุดลายพรางนี่เองที่มีคนนิยมนำมาออกแบบเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งแท้จริงแล้ววัตถุประสงค์หลักของชุดลายพรางคือ การพรางตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โดยได้แนวคิดมาจากบรรดาสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิด ซึ่งชุดลายพรางของไทยใช้รูปแบบ Woodland ตามแบบของอเมริกา แต่ปัจจุบันชุดลายพรางที่ฮอตฮิตนั้น เชยระเบิด! ไปซะแล้ว เพราะทางกองทัพบกได้พัฒนาลายพรางแบบเดิมเป็นลายพรางแบบดิจิตอลแทน เพื่อเติมคุณสมบัติในการพรางตัวจากเครื่องมือตรวจจับสมัยใหม่ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ก็ยังถือว่ายุคนี้เป็นยุคเริ่มต้นของชุดลายพรางแบบดิจิตอล เพราะยังสามารถออกแบบได้อีกหลายรูปแบบและต้องใช้งบประมาณในการวิจัยค่อนข้างสูง ซึ่งหากออกแบบมาไม่ถูกต้อง ผลที่ได้อาจทำให้มองเห็นได้ง่ายกว่าเดิม       

อย่างไรก็ตาม เรายังเห็นชุดทหารทั้งชุดสีเขียวและลายพราง ถูกนำมาออกแบบให้แฟชั่นในหลายไอเท็ม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเกต เสื้อยืด กางเกง กระโปรง ก็มีอยู่เกลื่อนกลาดในตลาดนัดทั่วไป หากก๊อปชุดทหารมาใส่ทั้งชุด แถมติดยศครบครัน อาจจะมีความผิดเพราะผู้ที่แต่งเครื่องแบบทหารโดยไม่มีสิทธิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นมีความผิดระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 5 ปี และหากกระทำเช่นว่านี้ในช่วงกฎอัยการศึก จะมีโทษจำคุก 1-10 ปีด้วยเช่นกัน
       จริงๆแล้ว"เครื่องแบบทหารและตำรวจ มีความหมายแห่งเกียรติศักดิ์และศักดิ์ศรีของสถาบันรักษาความมั่นคงแห่งชาติ จึงมิใช่เป็นเฉพาะเครื่องหมายบอกเหล่า บอกจำพวก บอกสีของผู้สวมใส่เท่านั้น ในข้อนี้ผู้สวมใส่เครื่องแบบทหารและตำรวจ จึงพึงระลึก สังวร ระวัง และเชิดชูสัจจะข้อนี้ไว้ เพื่อมิให้เครื่องแบบทหารและเครื่องแบบตำรวจนั้น ต้องตกต่ำ หม่นหมองลง"       ดังนั้น ใครจะขออินเทรนด์สไตล์ Military ขอแนะนำให้หยิบจับไอเท็มเด่นๆ ของแฟชั่นลายทหารมามิกซ์แอนด์แมตซ์กับสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง ให้สวยแบบอาร์มีก็น่าจะโอเคแล้วนะคะ